OVERHIT เป็นเกมที่ฮีโร่จะมีธาตุเป็นของตัวเอง ซึ่งมีหลายคนที่ชอบจัดฮีโร่ธาตุเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ในเรื่องของการลง Raid ต่างๆ ที่จะสามารถสร้างดาเมจกับบอสได้เยอะเพื่อเอา Top DMG ต่างๆ นาๆ ซึ่งพวกเรา GameFever ได้ไปเจอไกด์ดีๆ ที่แฟนๆ ส่งมาให้เราดู เป็นไกด์แนะนำการจัดตัวตามธาตุต่างๆ ซึ่งเราจะมาแปลให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ


หลักอย่างแรกที่ต้องทราบก่อนเลยคือบอสทั้ง 3 ตัวนั้นมีธาตุเป็นของตัวเอง ซึ่งถ้าหากเรานั้นจัดทีมที่ตัวละครมีธาตุที่ได้เปรียบบอส โอกาสที่บอสจะตีเราเบา และเราตีบอสแรง ก็จะมากขึ้นนั่นเอง

Vedr และ Ignite Fire Dragon

จัดทีมลง Raid Overhit

จัดทีมลง Raid Overhit

โดยบอสของดันนี้จะเป็นธาตุไฟ ซึ่งการที่เราจัดฮีโร่ให้เป็นธาตุน้ำก็จะช่วยให้ได้เปรียบมากขึ้น เพราะเราต้องการใช้ฮีโร่น้ำเพื่อมาลบบัaความเสียหาย แนะนำให้ใช้อย่างน้อย 3 ตัวที่มาทำดาเมจ ส่วนอีกสองตัวเป็นพวกซัพพอร์ต และแทงค์ที่ฮีลได้

จัดทีมลง Raid Overhit
Reiz Niflheim Czerni Sophia Cicero (หรือแทงค์ตัวอื่นๆ )

 

ตัว Reiz เราสามารถหาได้ง่ายๆ +2 ในช่วง Event Story โดยจะมีดาเมจที่สูงและแช่แข็งได้ เช่นเดียวกับตัว Niflheim, Czerni ที่เป็นฮีโร่ธาตุน้ำที่มีดาเมจจัด ส่วนฮีโร่อีกสองตัวก็จะเป็นตัวซัพพอร์ต และ Tank เบสิคที่มีประโยชน์ใช้ได้ทุกช่วงไม่จำเป็นต้องธาตุตรงก็ได้
ถ้าหากมีฮีโร่ SSR +2 ขึ้นไปตามนี้ สามารถเอามาแทน Nifheim หรือ Czerni ได้

 

ตัว Colette สามารถ Link คอมโบสกิลกับทาง Reiz ได้ ซึ่งจะสร้างดาเมจจัดมากขึ้น ส่วน Aglaea ก็เป็น SSR ธาตุน้ำที่เก่งเป็นอันดับต้นๆ


 Liegestein

จัดทีมลง Raid Overhit

การจัดการกับบอสตัวนี้ ธาตุที่ดีสุดนั่นคือดิน และต้องใช้ฮีโร่ที่ลบบัฟหรือฮีโร่ที่ทำดาเมจ AOE ใส่ เพราะตัวบอสจะสร้างกำแพงมาป้องกันนั่นเอง

 
Ren Amati Darkhell หรือ Victoria Sophia Cicero (หรือแทงค์ตัวอื่น)

 

Ren จะมี DPS ที่สูงมาก และสามารถหาได้ฟรีๆ ช่วงต้น Amati สามารถลดค่าป้องกัน และดาเมจของศัตรูได้ ส่วน Darkhell กับ Victoria จะเป็นตัวละครที่สามารถสร้างดาเมจได้สูง และอีกสองตัวก็ตามสเตปคือซัพและแทงค์

ถ้าหากมีฮีโร่ SSR +2 ขึ้นไปตามนี้ สามารถเอามาแทน Amati – Darkhell หรือ Victoria ได้

 

ตัว Leika เป็นตัวที่มีดาเมจ AOE สูง พร้อมทั้งยังสามารถคอมโบสกิลกับทาง Ren ได้ด้วย ซึ่งสามารถเอามาแทน Darkhell หรือ Victoria ได้ รวมถึงตัว Celesta สามารถเอามาแทน Amati ได้ เพราะตัวละครนี้มีสกิลบัฟดาเมจให้กับฮีโร่ธาตุดินทั้งหลาย


Fafnir

จัดทีมลง Raid Overhit

การจัดการกับ Fafnir ที่ดีที่สุดคือการใช้ฮีโร่ธาตุแสง เพราะบอสตัวนี้จะมีบัฟลดพลังป้องกัน และลดความแรงของคริติคอล ซึ่งในธาตุแสงนั้นจะมีฮีโร่ที่สามารถเพิ่ม ATK ให้กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อทดแทนดาเมจที่หายไปนั่นเอง

Young Gleck Dominique Yuri Sophia Cicero (หรือแทงค์ตัวอื่น)

 

Young Gleck เป็นตัวที่มีดาเมจจัด และบัฟเพิ่มโอกาศคริของตัวเอง Dominique เป็นตัวดาเมจที่ถ้าหากอยู่ขั้น S2 จะสามารถเพิ่มบัฟดาเมจได้ Yuri จะมีบาเรียป้องกัน พร้อมกับบัฟ ATK ให้ทีม และที่เหลือก็จะเป็นซัพพอร์ตฮีลหมู่และแทงค์

ถ้าหากมีฮีโร่ SSR +2 ขึ้นไปตามนี้ สามารถเอามาแทนได้

 

Jack เป็นตัวที่ทำดาเมจแสงใส่ธาตุมืดได้แรงมาก คล้ายกับตัว Dominique ส่วน Jinkai สามารถหยิบมาเป็นลีดเดอร์ จะให้ค่าพลังป้องกัน และบาเรียกับทีม และลดดาเมจให้กับศัตรู ซึ่งเอามาแทน Cicero ได้ ส่วน Helena จะสามารถสร้างเกราะ มีชุบชีวิต ซึ่งอาจจะเอามาทดแทน Yuri ได้ แต่ข้อเสียคืออาจะไม่มีบัพเพิ่มดาเมจ


ธาตุอื่นๆ

ธาตุไฟ และ ธาตุมืดตอนนี้ยังไม่เหมาะในการลง Raid เพราะยังไม่มีบอสตัวไหนแพ้ธาตุสองสายนี้ แต่การจัดทีมต่อสู้ให้ดีก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

ธาตุไฟ

Ludmila (SR) Surt Alcon Sophia (หรือซัพพอร์ตตัวอื่น) Cicero (หรือแทงค์ตัวอื่น)

 

เป็นสายสกิลดาเมจจัดๆ จากตัว Ludmila และ Surt ส่วนตัว Alcon ก็จะสามารถเพิ่ม ATK ให้กับตัวเราได้

ถ้าหากมีฮีโร่ SSR +2 ขึ้นไปตามนี้ สามารถเอามาแทนได้

ธาตุมืด

 

จัดทีมลง Raid Overhit จัดทีมลง Raid Overhit จัดทีมลง Raid Overhit จัดทีมลง Raid Overhit จัดทีมลง Raid Overhit จัดทีมลง Raid Overhit
 Teze Proxy Alcon หรือ Yuri Sophia (หรือซัพพอร์ตตัวอื่น) Cicero (หรือแทงค์ตัวอื่น)

 

Teze เป็นตัวที่มีดาเมจจัด เช่นเดียวกับ Proxy ที่สกิล AOE สูงมาก ส่วน Alcon กับ Yuri เลือกมา 1 ตัวเพื่อเพิ่ม ATK ให้กับเรา

 

Unknown เป็น Support ที่ดีสุดในบรรดาฮีโร่ธาตุมืด พร้อมทั้งยังสามารถลิงก์สกิลกับทาง Taze ได้อีกด้วย ซึ่งจะเพิ่มดาเมจและดีบัฟ รวมถึงถ้า +2 ก็จะลดค่าป้องกันศัตรู Demian เป็น Tank ที่มีดาเมจจัด และสามารถฮีลตัวเองได้ Angelo เป็นตัวที่มีดาเมจ AOE จัด แต่อาจจะไม่เหมาะในการลง Raid ส่วน Elphie ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ธาตุมืด แต่เป็นตัวละครที่มีบัฟดาเมจให้เพื่อนร่วมทีม